Wimbledon Championships 2013: การชิงชนะเลิศครั้งแรกของ Andy Murray และความหวังใหม่ของเทนนิสอังกฤษ

การแข่งขันเทนนิส Wimbledon Championships ถือเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์กีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และสำหรับชาวอังกฤษแล้ว Wimbledon มีความหมายไปมากกว่านั้น มันคือสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ ความภาคภูมิใจ และความฝันของนักกีฬา
ปี 2013 เป็นปีพิเศษสำหรับเทนนิสอังกฤษ Wimbledon Championships ปีนั้นได้เห็นการลุกขึ้นมาของ Andy Murray นักเทนนิสหนุ่มไฟแรงจากสก็อตแลนด์
Murray เริ่มต้นอาชีพนักเทนนิสตั้งแต่ยังเด็ก และแสดงพรสวรรค์ที่โดดเด่นออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ เขาคว้าแชมป์รายการเยาวชน Wimbledon เมื่ออายุเพียง 17 ปี และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเทนนิสชั้นนำของโลกอย่างรวดเร็ว
หลังจากล้มเหลวในการชิงชัย Wimbledon ในปี 2012 Murray กลับมาในปี 2013 ด้วยความมุ่งมั่นที่เหนือกว่า เขาเอาชนะคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Novak Djokovic, Roger Federer และ Jo-Wilfried Tsonga ก่อนที่จะเผชิญหน้ากับ Novak Djokovic ในรอบชิงชนะเลิศ
แมตช์การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเป็นการดวลกันที่เข้มข้นและกินเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง Murray สู้แบบไม่ย่อท้อ และในที่สุดก็เอาชนะ Djokovic ในเซ็ตสุดท้าย
ชัยชนะครั้งนี้สร้างประวัติศาสตร์ นับเป็นครั้งแรกที่นักเทนนิสชาวอังกฤษชายชนะ Wimbledon Championships นับตั้งแต่ปี 1936
ผลกระทบของชัยชนะ Wimbledon ของ Andy Murray
ชัยชนะของ Murray ไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จส่วนตัว แต่ยังมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวงการเทนนิสอังกฤษและประเทศอังกฤษ:
-
แรงบันดาลใจให้กับเยาวชน: ชัยชนะของ Murray ได้จุดประกายความสนใจในกีฬาเทนนิสให้กับเยาวชนชาวอังกฤษจำนวนมาก และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ฝันที่จะเป็นนักเทนนิส
-
การฟื้นฟูความภาคภูมิใจ: การชนะ Wimbledon Championships หลังจากที่ต้องรอคอยมานานกว่า 77 ปี นำมาซึ่งความภาคภูมิใจและความสุขแก่ชาวอังกฤษ
-
การส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ: ชัยชนะของ Murray ได้ทำให้เทนนิสอังกฤษได้รับความสนใจจากทั่วโลก และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศอังกฤษในฐานะศูนย์กลางกีฬา
Murray ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเทนนิสรุ่นหลังมาจนถึงทุกวันนี้ และชัยชนะของเขาที่ Wimbledon Championships ในปี 2013 จะจารึกอยู่ในความทรงจำของแฟนเทนนิสไปอีกนานแสนนาน.