การปฏิวัติ 1974: การล้มล้างระบอบราชาธิปไตยของจักรพรรดิ Hailé Selassie I และการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยแห่งเอธิโอเปีย

การปฏิวัติ 1974: การล้มล้างระบอบราชาธิปไตยของจักรพรรดิ Hailé Selassie I และการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยแห่งเอธิโอเปีย

ท่ามกลางความโกลาหลและความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในช่วงทศวรรษที่ 1970 เอธิโอเปียได้เผชิญกับการล้มล้างระบอบเก่าที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การปฏิวัติปี 1974 นำไปสู่การสิ้นสุดของราชวงศ์ Solomonic ซึ่งครองอำนาจมานานกว่าสองพันปี และทำให้จักรพรรดิ Hailé Selassie I ผู้ซึ่งนับถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์แอฟริกาต้องถูกปลดจากตำแหน่ง

เหตุการณ์ครั้งนี้มีรากฐานมาจากความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นของประชาชนต่อความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระบบการปกครองแบบเผด็จการ และปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง การขาดแคลนอาหารและโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนส่วนใหญ่ ทำให้เกิดความขุ่นเคืองอย่างกว้างขวาง

ในเดือนกันยายนปี 1974 คณะทหารที่นำโดย Mengistu Haile Mariam ได้ยึดอำนาจจากจักรพรรดิ Hailé Selassie I และประกาศจัดตั้ง Derg ซึ่งเป็นคณะกรรมการปกครองประเทศ การปฏิวัติได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชนที่หวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก

Hailé Selassie I หรือที่รู้จักกันในชื่อ Ras Tafari Makonnen ก่อนขึ้นสู่บัลลังก์จักรพรรดิ ในปี 1930 เป็นผู้ปกครองที่มีความสามารถและเป็นที่เคารพนับถือ แม้ว่าจะมีการต่อต้านจากฝ่ายมหาอำนาจ แต่เขาก็ยังคงรักษาเอกราชของเอธิโอเปียไว้ได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ภายใต้การปกครองของ Hailé Selassie I เอธิโอเปียได้รับการพัฒนาอย่างมาก มีการก่อสร้างถนน โรงเรียน และโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีการปฏิรูปที่ดินและการแนะนำระบบการศึกษายุคใหม่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายรัชสมัยของเขา Hailé Selassie I เริ่มเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก จากปัญหาเศรษฐกิจและความไม่พอใจจากประชาชน

การปฏิวัติปี 1974 ทำให้ชีวิตของ Hailé Selassie I ถึงจุดจบ การถูกปลดจากตำแหน่งและถูก软禁ในบ้านพักของเขาเอง จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1975

ผลกระทบของการปฏิวัติ

การปฏิวัติปี 1974 มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเอธิโอเปีย

  • การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง: เอธิโอเปียได้เปลี่ยนจากราชวงศ์ไปเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย

  • การสังหารหมู่: ภายใต้การปกครองของ Derg ได้มีการสังหารหมู่และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

  • สงครามกลางเมือง: การปฏิวัติได้นำไปสู่สงครามกลางเมืองยาวนานหลายปี

  • ความยากจน: เศรษฐกิจของเอธิโอเปียได้รับผลกระทบอย่างหนัก และความยากจนเพิ่มขึ้น

Hailé Selassie I ในสายตาประวัติศาสตร์

ภาพลักษณ์ของ Hailé Selassie I

Hailé Selassie I เป็นบุคคลที่มีความซับซ้อนและมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์เอธิโอเปีย

  • ผู้นำที่ทันสมัย: Hailé Selassie I เป็นผู้สนับสนุนการพัฒนาและปฏิรูป

  • ผู้พิทักษ์เอกราช: เขาต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของเอธิโอเปียจากการรุกรานของอิตาลี

  • ผู้นำศาสนา: Hailé Selassie I ถือเป็นพระเจ้าในลัทธิ Rastafarianism ซึ่งมีผู้ติดตามทั่วโลก

  • ผู้นำเผด็จการ: ในช่วงปลายรัชสมัยของเขา Hailé Selassie I ได้กลายเป็นผู้นำที่ authoritarian

Hailé Selassie I เป็นบุคคลที่มีความขัดแย้งและมักถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนในเอธิโอเปียและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของเขาในประวัติศาสตร์แอฟริกาไม่สามารถปฏิเสธได้

การส่งบทเรียนสู่อนาคต

การปฏิวัติปี 1974 ในเอธิโอเปียเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและผลกระทบที่รุนแรงต่อประชาชน

บทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์นี้ ได้แก่:

  • ความจำเป็นในการมีกระบวนการทางการเมืองที่โปร่งใสและยุติธรรม
  • การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
  • การให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน

การทำความเข้าใจประวัติศาสตร์สามารถช่วยเราหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในอดีตและสร้างอนาคตที่สดใสกว่า

ตาราง: ผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์การปฏิวัติ

ชื่อ สถานะ บทบาท
Hailé Selassie I จักรพรรดิ ถูกปลดจากตำแหน่งและถูก软禁
Mengistu Haile Mariam นายพล หัวหน้าคณะ Derg

ข้อคิด

การปฏิวัติปี 1974 ในเอธิโอเปียเป็นเหตุการณ์ที่ซับซ้อนและมีความหมายอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์ของประเทศ การศึกษาเรื่องนี้ช่วยให้เราได้เข้าใจถึงความสำคัญของการเมืองที่ดี สังคมที่ยุติธรรม และการเคารพสิทธิมนุษยชน