การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์: เคล็ดลับในการล้มล้างจักรวรรดิ และการกำเนิดของสหภาพโซเวียต

 การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์: เคล็ดลับในการล้มล้างจักรวรรดิ และการกำเนิดของสหภาพโซเวียต

ในโลกประวัติศาสตร์ การปฏิวัติมักถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของสังคมและการเมือง ยิ่งไปกว่านั้น หากมองย้อนกลับไปในอดีต จะพบว่าการปฏิวัติหลายครั้งเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อระบอบการปกครองเดิม รวมถึงความยากจน การกดขี่ และความเหลื่อมล้ำทางสังคม

หนึ่งในเหตุการณ์ปฏิวัติที่น่าสนใจที่สุดและมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโลก คือ “การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์” (February Revolution) ในปี ค.ศ. 1917 ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ และการกำเนิดของรัฐบาลคอมมิวนิสต์

เหตุการณ์นำไปสู่การปฏิวัติ:

การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อนและทับซ้อนกัน:

  1. สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (World War I): รัสเซียเข้าร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1914 และประสบกับความพ่ายแพ้ต่อเนื่อง ความสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง ทำให้ประชาชนหมดหวังและไม่พอใจต่อรัฐบาล

  2. ความยากจนและความเหลื่อมล้ำ: รัสเซียในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แม้ว่าจะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวนาอยู่ในสภาพยากจน

  3. การปกครองแบบเผด็จการ: รัสเซียอยู่ภายใต้การปกครองของซาร์นิโคลัสที่ 2 ซึ่งมีความเข้มงวดและไม่ยอมรับข้อเรียกร้องจากประชาชน

  4. การลุกฮือของประชาชน: ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 เกิดการชุมนุมและเดินขบวนของผู้หญิงในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เรียกร้องอาหารและเสบียง

  5. ความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล: รัฐบาลซาร์ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และถูกมองว่าเป็นอ่อนแอและไร้อำนาจ

บทบาทของ “Alexander Kerensky”:

Alexander Kerensky เป็นนักการเมืองสังคมนิยมที่ค่อย ๆ ขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลชั่วคราว

หลังจากที่ซาร์นิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติ Kerensky ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชั่วคราว ในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งนี้ รัฐบาลพยายามดำเนินการปฏิรูปและแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การปรับปรุงสภาพชีวิตของประชาชน การจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการเลือกตั้ง และการประกาศยอมรับสิทธิสตรี

อย่างไรก็ตาม ความไม่มั่นคงทางการเมืองยังคงอยู่ และ Kerensky ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้น ยังมีฝ่าย Bolsheviks ภายใต้การนำของ Vladimir Lenin ที่ต้องการปฏิวัติอีกครั้งเพื่อก่อตั้งรัฐบาลคอมมิวนิสต์

ผลลัพธ์ของการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์:

  • การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ และสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ในรัสเซีย

  • การตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นนำโดย Alexander Kerensky

  • เกิดการปฏิวัติเดือนตุลาคม (October Revolution) ในปีเดียวกัน ซึ่งนำโดย Bolsheviks

  • รัฐบาลคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของ Vladimir Lenin ก่อตั้งสหภาพโซเวียต

การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของรัสเซียและส่งผลกระทบต่อโลกอย่างลึกซึ้ง โดยเปิดทางให้เกิดการปฏิวัติเดือนตุลาคม และการก่อตั้งสหภาพโซเวียต

ตารางสรุปเหตุการณ์สำคัญ:

วันที่ เหตุการณ์
23 กุมภาพันธ์ (8 มีนาคม) ค.ศ. 1917 ชาวนาและคนงานในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเริ่มชุมนุมเรียกร้องอาหารและเสบียง
25 กุมภาพันธ์ (10 มีนาคม) ค.ศ. 1917 การปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและทหาร รัฐบาลเริ่มสูญเสียการควบคุมสถานการณ์

| 27 กุมภาพันธ์ (12 มีนาคม) ค.ศ. 1917 | ซาร์นิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติ | | 2 มีนาคม | การก่อตั้งรัฐบาลชั่วคราว โดยมี Alexander Kerensky เป็นนายกรัฐมนตรี |

บทเรียนจากการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์:

การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์สอนให้เราเห็นว่า:

  • ความไม่พอใจของประชาชน: เมื่อประชาชนถูกกดขี่และถูกละเลย ความไม่พอใจจะสะสมจนนำไปสู่การลุกฮือ

  • ความสำคัญของการปฏิรูป: รัฐบาลควรตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและดำเนินการปฏิรูปเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ

  • ผลกระทบของสงคราม: สงครามมักนำมาซึ่งความทุกข์ยากและความไม่มั่นคงทางสังคม

  • บทบาทของผู้นำ: ผู้นำควรมีความฉลาดรอบรู้ และสามารถสร้างความสามัคคีให้แก่ประชาชน