Copa América Centenario: การต่อสู้ครั้งสุดหินของทีมชาติบราซิลที่นำโดย Casemiro

 Copa América Centenario: การต่อสู้ครั้งสุดหินของทีมชาติบราซิลที่นำโดย Casemiro

ในปี 2016 สหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นเวทีสำหรับการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกอย่าง Copa América Centenario รายการนี้เป็นการเฉลิมฉลองร้อยปีของ CONMEBOL (Confederación Sudamericana de Fútbol) และได้ดึงดูดความสนใจจากแฟนบอลทั่วโลก

ทีมชาติบราซิลซึ่งเป็นแชมป์ 8 สมัยของ Copa América ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วยความคาดหวังสูง แน่นอนว่าพวกเขามี Lionel Messi ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับโลก แต่ในรายการนี้ บราซิลได้พบกับอุปสรรคอย่างหนักและต้องพึ่งพาความสามารถของ Casemiro กองกลางตัวเก่งจาก Real Madrid

Casemiro เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1992 ใน São José dos Campos, Brazil และได้เติบโตมาเป็นนักฟุตบอลที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ เขาเริ่มต้นอาชีพกับ Sociedade Esportiva Palmeiras ก่อนจะย้ายไป Real Madrid ในปี 2013

Casemiro เป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการทำลายเกมของคู่ต่อสู้, การจ่ายบอลที่แม่นยำ และการครองบอลที่แข็งแกร่ง เขาเป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบ และมักจะถูกยกย่องว่าเป็น “หัวใจ” ของทีมชาติบราซิล

Copa América Centenario ปี 2016 ไม่ได้ง่ายสำหรับบราซิล พวกเขาแพ้คู่แข่งสำคัญอย่างเปรูในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ต้องผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยอันดับที่สองของกลุ่ม

รอบ คู่แข่ง ผล
รอบแบ่งกลุ่ม เอกวาดอร์ ชนะ 0-1
รอบแบ่งกลุ่ม เปรู แพ้ 0-1
รอบแบ่งกลุ่ม โคลอมเบีย เสมอ 0-0

หลังจากนั้น บราซิลก็ต้องผ่านการต่อสู้ที่ยาวนานกับโคลัมเบียในรอบรองชนะเลิศ และเอาชนะแargentine ในรอบชิงชนะเลิศด้วยจุดโทษ

Casemiro มีบทบาทสำคัญในการนำทีมชาติบราซิลไปสู่ชัยชนะครั้งนี้

  • เขากำหนดจังหวะการเล่นของทีม
  • แย่งบอลกลับมาได้อย่างไม่ขาดสาย
  • จัดการเกมอย่างสง่างาม
  • ยิงประตูที่สำคัญในรอบรองชนะเลิศ

Casemiro ได้รับรางวัล “นักเตะยอดเยี่ยม” ของ Copa América Centenario ซึ่งเป็นการยอมรับความสามารถและความมุ่งมั่นของเขา

Copa América Centenario ปี 2016 เป็นการแข่งขันที่น่าจดจำสำหรับ Casemiro และทีมชาติบราซิล

ในแง่หนึ่ง การแข่งขันนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของบราซิล

Casemiro ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นผู้เล่นชั้นนำในโลก และมีศักยภาพที่จะเป็นกัปตันทีมชาติบราซิลในอนาคต

การชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติยศแก่ Casemiro และทีมชาติบราซิลเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นหลังอีกด้วย